dasimahduh.blogspot.com
Burberry แบรนด์แฟชั่นชั้นนำของโลกที่ล่าสุดอยู่ในลิสต์แบรนด์ที่ได้รับความนิยมจัดโดยบริษัทแถวหน้า ของโลกอย่าง LYST Burberry ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแบรนด์แฟชั่นที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมและนำเสนอประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ที่ชื่นชอบแฟชั่นอยู่เสมอ Burberry ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของประสบการณ์การช้อปปิ้งไปอีกขั้น ด้วยการเผยโฉมร้านคอนเซ็ปต์ใหม่ในเมืองเซินเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน หรือที่ได้รับฉายาว่าเป็นซิลิคอน วัลเลย์ของฝั่งตะวันออก
โดยได้ร่วมพัฒนาคอนเซ็ปต์ของร้านแห่งใหม่นี้กับยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของโลกอย่าง Tencent มาร่วมสร้างความแตกต่างให้เหล่า Digital Native ที่ผนวกประสบการณ์การช้อปปิ้งในร้านเข้ากับวิถีชีวิตดิจิทัลได้อย่างไร้ขีดจำกัด ซึ่งร้านสาขานี้จะกลายเป็นต้นแบบให้กับ สโตร์ของ Burberry อีกหลายสาขาทั่วโลก
"Burberry เป็นแบรนด์ผู้บุกเบิก ให้ความสำคัญด้านความคิดสร้างสรรค์ ที่นำไปสู่การพัฒนาอย่างไม่สิ้นสุด โดยริเริ่มทดสอบความคิดใหม่ๆ และผลักดันข้ามขอบเขตข้อจำกัด ซึ่งในปีที่ผ่านมา เราเล็งเห็นถึงการเจริญเติบโตและความล้ำสมัยทางเทคโนโลยีของผู้บริโภคชาวจีน เราได้ร่วมมือกับ Tencent บุกเบิก Retail Store ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่เพื่อสร้างประสบการณ์อันเหนือความคาดหมายให้กับเหล่า Digital Savvy เหล่านี้
โดยประเทศจีนถือเป็นเป้าหมายที่เหมาะสม เนื่องด้วยกลุ่มลูกค้าคือผู้มีวิถีชีวิตแห่งยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง และ Burberry สโตร์สาขาเซินเจิ้น (Shenzhen) คือจุดเริ่มต้นที่เราจะสร้างปรากฏการณ์การเปลี่ยนแปลง พร้อมพาเหล่าสาวก Burberry ไปสัมผัสกับประสบการณ์นวัตกรรมอันล้ำสมัย ” Marco Gobbetti CEO แบรนด์ Burberry กล่าว
‘Value for users, tech for good” คือพันธกิจของ Tencent ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมาโดยตลอด เราพร้อมที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการที่เหนือความคาดหมายให้กับ Burberry เพื่อตอบสนองความต้องการอย่างไม่มีที่สิ้นสุดของผู้บริโภค ในการร่วมมือกับ Burberry ครั้งนี้เรามีความมุ่งหวังที่จะยกระดับร้านค้าหรือรีเทลสมัยใหม่ให้พัฒนาไปอีกขั้น พร้อมกับยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน และแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมควบคู่กันไป” Martin Lau ประธานบริษัท Tencent กล่าว
เมื่อหน้าร้านคือหัวใจของการสร้างแบรนด์ยุคใหม่ Burberry จึงเปิดตัว Social Retail Store สโตร์แห่งอนาคต (a store of tomorrow for today) ครั้งแรกของโลก อย่างเป็นทางการ ณ เมืองเซินเจิ้น ย่าน Bay MixC ศูนย์กลางเทคโนโลยีที่เปรียบเสมือนซิลิคอน วัลเลย์ของซีกโลกตะวันออก ที่ผสานโลกโซเชียลเข้ากับโลกแห่งแฟชั่นอย่าง ไร้รอยต่อ (seemless)
โดยประสบการณ์สำคัญที่เหล่ากลุ่มคนรักแฟชั่นจะได้ สัมผัสนั้น Burberry และ Tencent ได้นำการปฏิสัมพันธ์สื่อสังคมออนไลน์มาผนวกเข้ากับบรรยากาศและ ประสบการณ์ภายในร้านผ่านช่องทาง WeChat Mini Program ซึ่งลูกค้าสามารถเข้าถึงคอนเทนต์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ และประสบการณ์อันเหนือระดับได้ อีกทั้งยังสามารถแบ่งปันประสบการณ์สุดประทับใจในโมเมนต์ต่างๆ ผ่าน สื่อสังคมออนไลน์
คอนเซ็ปต์ร้านใหม่นั้นได้แบ่งพื้นที่ให้ผู้ชื่นชอบแฟชั่นได้สัมผัสการเดินทางด้วยประสบการณ์ที่แตกต่างกัน โดยพื้นที่ภายในร้านนั้นลูกค้าสามารถสนุกไปกับการเดินทางข้ามเวลาไปพร้อมกับแบรนด์ด้วยสื่อ interactive ผ่าน เอกลักษณ์ของแบรนด์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเทรนช์โค้ท ลายโมโนแกรม และ ลายพิมพ์ของเหล่าสรรพสัตว์นานาชนิด
Thomas Burberry เป็นนักประดิษฐ์ ผู้คิดค้น และนักล่าฝัน ซึ่ง Social Retail Store แห่งใหม่ได้สะท้อนถึงจิตวิญญาณความเป็นผู้บุกเบิกและความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาในด้านนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ของผู้ก่อตั้งแบรนด์ชาวอังกฤษ และยังเป็นพื้นที่สำหรับการทดลองและการเรียนรู้ รวมถึงเป็นร้านต้นแบบเพื่อพัฒนาเครือข่ายแบรนด์ Burberry ในประเทศจีน
“ผมได้แรงบันดาลใจจากความสมดุลของธรรมชาติและเทคโนโลยี และองค์ประกอบที่พร้อมจะเชื่อมโยงทั้งสอง โลกเข้าด้วยกัน โดยสโตร์แห่งนี้ได้หลอมรวมความสัมพันธ์ระหว่างดิจิทัลและมิติมุมมองกำเนิดเป็นแนวคิดใหม่ ผมต้องการที่จะนำความมีชีวิตชีวาสู่สโตร์แห่งนี้ ที่สามารถเห็นผ่านทางลายปริ้นท์ของเหล่าสรรพสัตว์นานาชนิดภายใน Thomas Burberry คาเฟ่และร่วมดื่มด่ำไปกับดีไซน์และวัสดุต่างๆ อีกทั้งผมต้องการที่จะให้เหล่าชุมชนของ Burberry ร่วมเดินทางไปกับการผจญภัยครั้งนี้ด้วยกัน” Riccardo Tisci ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แบรนด์ Burberry กล่าว
“เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เห็นการเปิดตัว Burberry’s social retail store แห่งแรกของโลก โดยครั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นที่เราจะได้ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ เราจะสร้างนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า และสนับสนุนการวางรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับแบรนด์เพื่อเติบโตอย่างยั่งยืน“ Davis Lin ผู้อำนวยการอาวุโสบริษัท Tencent กล่าว
THE WECHAT MINI PROGRAM
Tencent และ Burberry ได้ร่วมกันพัฒนา Mini Program เพื่อรังสรรค์สโตร์ให้มีชีวิตชีวาและสนุกสนานมากยิ่งขึ้น ผ่านการบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ในแบบ Personalised Experiences ผ่านแอพพลิเคชั่น WeChat Mini Program เรียกได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่พร้อมยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าในการใช้บริการ Burberry สโตร์ โดยลูกค้าสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ภายในแอพลิเคชั่น เพื่อเข้าชมภายในสโตร์ รวมทั้งศึกษาข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้า นอกเหนือจากนี้ยังมีบริการ ศูนย์บริการลูกค้า การจองเข้าใช้บริการสโตร์ล่วงหน้า รายละเอียดอีเว้นท์ และการจองโต๊ะThomas Burberry cafe อีกด้วย
SOCIAL CURRENCY
เปรียบเสมือนเหรียญรางวัล ที่สามารถนำไปแลกรางวัล ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก Thomas Burberry cafe และอื่น ๆ อีกมากมาย ยิ่งลูกค้าได้เข้ามามีบทบาทกับ Burberry มากเท่าไหร่ Social Currency ที่ได้รับก็จะยิ่งทวีคูณมากขึ้นเท่านั้น ประสบการณ์ภายใน Social Retail Store จะเริ่มต้นขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อลูกค้า Log in ผ่าน WeChat Mini Program จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการสร้างคาแรคเตอร์เป็นตัวละครแอนนิเมชั่นเพื่อใช้บริการภายใน สโตร์และเลือกสรรเสื้อผ้าต่าง ๆ
THE STORE
สโตร์คอนเซปต์ใหม่นี้ถูกเนรมิตด้วยพื้นที่ ขนาด 539 ตารางเมตร โดดเด่นด้วยวัสดุอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ไม้อัด ไปจนถึงกระจกและส่วนต่างๆที่ได้รับการขัดเงาอย่างประณีต พร้อมตกแต่งด้วยสีเบจ สีเขียวพิสตาชิโอ สีชมพู และสีฟ้า รวมไปถึงลายปริ้นท์ Thomas Burberry Monogram และลายปริ้นท์รูปสัตว์นานาชนิด ที่ล้วนเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ อีกทั้งประกอบไปด้วยห้องต่างๆมากถึง 10 ห้อง ที่สามารถให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์แบบส่วนตัวได้อย่างแท้จริง
INTERACTIVE STORE EVENT
ตั้งแต่ด้านหน้าของสโตร์ ลูกค้าจะพบกับหน้าจอสัมผัสเป็นสิ่งแรก นำพาพวกเขาท่องโลกแห่งดิจิทัล ซึ่งมีรูปปั้นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรันเวย์ Burberry Autumn / Winter 2020 หน้าจอนี้สะท้อนถึงการเคลื่อนไหวของร่างกาย ที่ลูกค้าสามารถร่วมบันทึกเรื่องราว และร่วมแบ่งปันประสบการณ์กับเพื่อนฝูง อีกทั้งหน้าจอสัมผัสด้านหน้ายังจัดแสดงคอลเล็กชั่นล่าสุดและสินค้าประจำของ Burberry
THE TRENCH EXPERIENCE
เพื่อเฉลิมฉลองไอเท็มอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Burberry ได้รังสรรค์พื้นที่ภายในสโตร์ นำเสนอ The Trench Experience ที่จะพาลูกค้าสัมผัสกับเทรนช์โค้ทหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเทรนช์โค้ทผลิตจากวัสดุที่คงทนต่อสภาพอากาศและสัมผัสบรรยากาศในแบบกลิ่นอายธรรมชาติภายในห้อง Trench Experience พร้อมให้ลูกค้าได้สร้างคอนเทนต์และเผยแพร่ลงบนโซเชียลมีเดีย
QR CODE
ลูกค้าสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมของคอลเล็กชั่นใหม่ล่าสุด สินค้าประจำซีซั่น และ สินค้าสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่มีขายเฉพาะที่ Shenzhen สโตร์ ผ่านการสแกนป้าย QR Code ที่แนบไว้กับสินค้า โดยหลังจากที่สแกนป้าย QR บนหน้าจอมือถือของท่านจะแสดงให้เห็นถึงเรื่องราวความเป็นมาของสินค้าผ่าน Wechat Mini Program ทุกการแสกนจะเป็นการสะสมคะแนน หรือ Social Currency อีกด้วย และยิ่งไปกว่านั้นสโตร์แห่งนี้ยังถือเป็นสโตร์แห่งแรกของ Burberry ที่มี QR แนบร่วมกับป้ายสิ้นค้าทุกชิ้น เรียกได้ว่าเป็นการเปิดประสบการณ์อีกขั้นแห่งยุคดิจิทัล
THOMAS’S CAFÉ
Thomas’s Cafe ได้มาเติมเต็มสโตร์แห่งนี้ให้สมบูรณ์แบบโดยได้แบ่งพื้นที่สำหรับการเชื่อมต่อของคอมมูนิตี้ โดยคาเฟ่ได้รับการตั้งชื่อตาม Thomas Burberry ผู้ก่อตั้งแบรนด์ อีกทั้งได้รับแรงบันดาลใจจาก Riccardo Tisci ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ ที่นำเอาโทนสีเบจ และ กระจกเงา อีกทั้งลายปริ้นท์รูปสัตว์นานาชนิด จากคลังภาพของ Riccardo รวมไปถึงภาชนะบนโต๊ะอาหารที่พิเศษสำหรับ Thomas’s Cafe โดยเฉพาะ ซึ่งเมนูต่าง ได้เฉลิมฉลองวัฒนธรรมการดื่มชาของประเทศอังกฤษและจีน รวมถึงอาหารฟิวชั่นที่ให้ความรู้สึกสนุกสนานและทันสมัย อีกทั้งลูกค้ายังสามารถร่วมกิจกรรมผ่านทาง WeChat Mini Program ที่สามารถนำเอาSocial Currency มาแลกไอเท็มเมนูใหม่สุดเอ็กซ์คลูซีฟได้อีกด้วย
FITTING ROOMS
ภายในสโตร์ได้แบ่งห้องลองเสื้อผ้าออกเป็นสามห้อง โดยแต่ละห้องมีคอนเซปต์ที่แตกต่างกันไป ได้แก่ the Burberry Animal Kingdom, Reflections และ the Thomas Burberry Monogram ที่ล้วนได้รับแรงบันดาลใจมาจากการเฉลิมฉลองให้กับแนวทางการออกแบบรูปแบบใหม่ของเฮ้าส์แห่งนี้ พร้อมบทเพลงจากเพลย์ลิสต์ที่จะเพิ่มความสุนทรีย์และให้คุณดื่มด่ำกับบรรยากาศภายในห้องลองได้อย่างเพลิดเพลิน และลูกค้าสามารถจองห้องลองที่ต้องการล่วงหน้าได้ผ่านทางมินิโปรแกรม
Let's block ads! (Why?)
"ที่ชื่นชอบ" - Google News
August 01, 2020 at 11:00AM
https://ift.tt/31dNl2i
ครั้งแรกของโลกกับ Social Retail Store ด้วยความร่วมมือของ Burberry กับ Tencent - Sanook
"ที่ชื่นชอบ" - Google News
https://ift.tt/36dr0nt