ส้มโอทับทิมสยาม ส้มโอที่สร้างชื่อให้อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ด้วยสีสันที่แดงสด เหมือนดังกับอัญมณีที่ชื่อว่า ทับทิมสยาม บวกกับรสชาติที่หวานอร่อย ทำให้ส้มโอทับทิมสยาม มีการกล่าวถึงกันอย่างมาก ทั้งที่ผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานผลไม้ชนิดนี้ รวมไปถึงเกษตรกรที่หันมาสนใจปลูกส้มโอสายพันธุ์นี้ มากเช่นกัน
ส้มโอทับทิมสยาม ผลไม้ที่ส่งออกจีน และฮ่องกง เกือบทั้งหมด
นางสุกัญญา ชูพงศ์ เจ้าของสวนสุภาสวัสดิ์ ตำบลบางจาก อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เล่าว่า เดิมส้มโอทับทิมสยาม ปลูกกันที่จังหวัดปัตตานี จุดเด่น คือ เนื้อส้มโอเป็นสีแดงสด เป็นสายพันธุ์โบราณ แต่ในอดีตเมื่อครั้งปลูกที่จังหวัดปัตตานี มีรสชาติเปรี้ยวไม่อร่อย เลยไม่ได้รับความนิยม จนกระทั่ง ทางชุมชนเกษตรกรในพื้นที่บ้านแสงวิมาน ตำบลคลองน้อย อำเภอปากพนัง เห็นว่าเนื้อส้มมีสีแดงสวย เลยทดลองนำมาปลูกบ้าง แต่พอผลผลิตออกมานอกจากจะได้เนื้อส้มสีแดงสดเหมือนที่ปัตตานีแล้ว ยังมีรสชาติที่ดี หวานอร่อยด้วย ตั้งแต่นั้นมา ทำให้ส้มโอชนิดนี้มีการกล่าวถึงกันมา และได้ฉายาว่า ส้มโอทับทิมสยาม
โดยส้มโอทับทิมสยาม สร้างชื่อให้กับอำเภอปากพนัง มาประมาณ 5-6 ปี หลังจากนั้นก็มีคนเริ่มสนใจปลูกกันมากขึ้น ทั้งในอำเภอปากพนัง อำเภออื่นๆ และจังหวัดใกล้เคียง เริ่มหันมาปลูกส้มโอทับทิมสยาม ปัจจุบันมีสวนส้มโอทับทิมสยามอยู่ในพื้นที่อำเภอปากพนังอย่างเดียว หลายพันไร่ แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด เพราะไม่เฉพาะตลาดในประเทศ ตลาดต่างประเทศ อย่าง ประเทศจีน และฮ่องกงมีการสั่งนำเข้าส้มโอทับทิมสยามปีละหลักพันตัน และจากความต้องการจำนวนมาก ส่งผลให้ราคาส้มโอทับทิมสยาม ขยับราคาเพิ่มขึ้นมาทุกปี
สำหรับราคาส้มโอทับทิมสยาม ปัจจุบัน ที่สวนสุภาสวัสดิ์ของ “คุณสุกัญญา” ขายเริ่มต้นที่ลูกละ 200 บาท ไปจนถึง 400 บาท ส่วนราคาขายในห้างสรรพสินค้า มีตั้งแต่ลูกละ 500 บาทไปจนถึง 800 บาท ที่ราคาค่อนข้างสูง เพราะล้งที่ส่งออกผลไม้ไปประเทศจีน และฮ่องกงจะมาเหมาผลผลิต จากชาวสวนโดยตรง หลังจากที่ส้มโอเก็บผลผลิตได้ ทำให้คนไทยก็ยังคงต้องกินส้มโอทับทิมสยามในราคาที่สูงอยู่ และการนำสายพันธุ์ ส้มโอทับทิมสยามไปปลูกในพื้นที่อื่น ๆ ยังได้รสชาติที่ไม่อร่อยเท่ากับที่อำเภอปากพนัง แห่งนี้ เพราะด้วยดินในพื้นที่อำเภอปากพนัง เป็นดินที่เกิดจากโคลนที่ทับถมกันระหว่างน้ำจืด และโคลนจากน้ำเค็ม เมื่อนำอะไรมาปลูกจะได้ผลผลิตที่รสชาติดี
จากพนักงานประจำ หันมาทำเกษตรอินทรีย์
สร้างรายได้หลายล้านบาทต่อปี
นางสุกัญญา เล่าว่า เดิมเธอทำงานรัฐวิสาหกิจ และออกจากงานมาตอนอายุ 55 ปี และโดยส่วนตัวเป็นคนชอบทำสวนอยู่แล้ว การปลูกส้มโอทับทิมสยาม เริ่มปลูกมาตั้งแต่ยังทำงานประจำอยู่ และเห็นว่า รายได้ดี ก็เลยตัดสินใจเกษียณอายุตอน 55 ปี ออกมาทำสวนส้มโอ อย่างจริงจัง เดิมปลูกอยู่ 25 ไร่ ตอนหลังขยายเพิ่มปลูกเป็น 40 ไร่ ส้มโอจะเก็บผลผลิตได้ต้องใช้เวลาประมาณ 3-4 ปี ในหนึ่งปี จะเก็บผลผลิตได้ 2 ครั้ง ช่วง เดือน กุมภาพันธุ์ ถึง เมษายน และเก็บผลผลิตได้อีกครั้ง เดือน ตุลาคม ถึง ธันวาคม
ส่วนการปลูกส้มโอทับทิมสยาม ไม่ได้ยาก แต่ไม่ได้ง่าย เพราะระบบรากอ่อนแอ ทำให้ตายได้ง่าย และโรคเยอะแมลงรบกวนเยอะ ดังนั้น การปลูกส้มโอไม่ว่าส้มโอสายพันธุ์ไหน ก็ต้องถึงยา ต้องฉีดพ่นสารเคมี จึงจะได้เก็บผลผลิต แต่ไม่ใช่ว่าไม่ใช้สารเคมีและจะหาวิธีดูแลส้มไม่ได้ พอหลังออกจากงานประจำคิดจะมาลองทำสวนของเราปราศจากยาฆ่าแมลง สารพิษต่างๆ รวมถึงการหันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์แทนการใช้ปุ๋ยเคมี เพราะรู้สึกว่า ตอนหลังทำไมส้มโอทับทิมสยามจึงมีสีแดงมากจังเลย ไปรู้มาว่า พ่อค้าล้งจากจีนแนะนำให้ชาวสวนใช้สารเร่งสี ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่า เราจะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด เพราะไม่อยากผลิตอาหารที่เป็นอันตรายให้ลูกค้าเราได้กิน และที่สำคัญ คือ ทำให้รสชาติส้มโอทับทิมสยามผิดเพี้ยนไปจากธรรมชาติ ซึ่งส่งผลเสียในอนาคต
“หลังจากนั้น ได้ทุ่มเวลาไปกับการคิดค้นหาวิธีทำสวนส้มโอของเราให้เป็นเกษตรอินทรีย์ได้อย่างไร เริ่มจากการลดใช้สารเคมี หันมาใช้ปุ๋ยคอก ทำจากธรรมชาติ และหาวิธีป้องกันโรค และแมลงต่างๆ โดยไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลงที่เป็นสารพิษ เริ่มทดลองจาก 1 ไร่ ไปเป็น 2 ไร่ ปัจจุบันสามารถลดการใช้สารเคมี และยาฆ่าแมลงไปได้เกือบทั้งหมดทั้ง 40 ไร่ สิ่งที่ได้ตามมา คือ หลายคนชมว่า รสชาติส้มโอทับทิมสยามจากที่สวนของเรา มีรสชาติที่แตกต่างจากสวนอื่นๆ ใครได้กินเขาก็จะชื่นชอบ และชมว่าส้มของเรารสชาติดี ทำให้เรามีกำลังใจที่ปรับเปลี่ยนมาสวนส้มโอทับทิมสยามที่เป็นอินทรีย์ ออแกนิค อย่างเต็มตัว ไม่ได้แค่เพียงทำรสชาติส้มหวานอร่อยเท่านั้น แต่เราในฐานะคนปลูก และคนบริโภคไม่ต้องเสี่ยงกับสารพิษสารเคมีที่จะเข้าไปทำร้ายร่างกายของเราอีกด้วย”
พร้อมถ่ายทอดผู้สนใจปลูกส้มโอทับทิมสยาม
นางสุกัญญา เจ้าของสวน บอกด้วยว่า ใครที่สนใจ และต้องการจะมาเรียนรู้การปลูกส้มโอทับทิมสยามในแบบเกษตรอินทรีย์ ยินดีที่จะถ่ายทอดให้ รวมถึงสอนการทำปุ๋ยคอก วิธีการกำจัดแมลง และการเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคให้กับต้นส้มโอ แบบไม่ต้องใช้สารเคมี สารพิษทำได้อย่างไร แม้ว่าปัจจุบัน ส้มโอทับทิมสยามจากสวนสุภาสวัสดิ์ ของเรา ดูภายนอกผิวจะไม่เรียบเขียวสด ผิวจะดูขรุขระ บ้าง หรือ ภายในเนื้อส้มไม่ได้แดงสด แต่รสชาติความหวานตามธรรมชาติ ใครที่ต้องการจะปลูก ทางสวนมีกิ่งพันธุ์จำหน่าย ในราคากิ่งละ 150 บาท ไปจนถึง 350 บาท
สำหรับในส่วนของผลผลิต ที่สวนสุภาสวัสดิ์ คุณสุกัญญา บอกว่า สำหรับพื้นที่ปลูกจำนวน 1 ไร่ ปลูกส้มโอได้ตั้งแต่ 60 ต้นไปจนถึง 70-80 ต้น โดยใน 1 ต้นจะให้ผลผลิตส้มโอ แตกต่างกันไปตามความแข็งแรงของแต่ละต้น ซึ่งตามปกติ ส้มโอจะให้ผลผลิตได้สูงถึงต้นละ 50-60 ลูก แต่ถ้าไว้ลูกเยอะ ต้นก็จะโทรม และลูกส้มโอจะแย่งอาหารกันและเติบโตไม่เต็มที ดังนั้น ชาวสวนเด็ดลูกทิ้งตั้งแต่เริ่มออก ให้เหลือ ต้นละไม่เกิน 20-30 ลูก โดยดูจากขนาดความแข็งแรงของต้น หรือ บางครั้งชาวสวนไว้แค่ 10-20 ลูก ต่อต้น เพื่อเลี้ยงให้ได้ลูกที่สมบูรณ์ มีขนาดใหญ่ ระยะเวลาตั้งแต่ออกดอก จนได้ผลผลิตประมาณ 6-7 เดือน
“สุกัญญา” บอกว่า เธอจะไม่เร่งผลผลิตออกเร็ว หรือ ออกนอกฤดูกาล เพราะจะทำให้ต้นส้มโอโทรม และรสชาติส้มจะไม่ดี เหมือนกับการออกตามฤดูกาลตามธรรมชาติ ส่วนรายได้ที่ผ่านมา มีรายได้ครั้งละ 2-3 ล้านบาท ต่อการเก็บเกี่ยวผลผลิต 1 ครั้ง บนพื้นที่ 25 ไร่ ใน 1รอบจะเก็บผลส้มโอได้ประมาณ 10,000 ลูก การลงทุนทำส้มโอ ต่อไร่ ต้องใช้เงินช่วงเริ่มต้นค่อนข้างสูงเป็นหลักแสนบาท หลังจากนั้น ค่าใช้จ่ายหลัก คือการดูแล ซึ่งหลังจากที่ส้มโอเติบโตและให้ผลผลิตแล้ว ค่าใช้จ่ายจะลดลง อายุของต้นส้มที่จะให้ผลผลิต ประมาณ 8-9 ปี ส้มโอจะเริ่มออกผลผลิตน้อย และต้องล้มและเริ่มปลูกใหม่
ผู้สนใจ โทร. 08-9305-0973
SMEs manager
"ที่ชื่นชอบ" - Google News
June 29, 2020 at 09:21AM
https://ift.tt/2BlXHnz
ส้มโอทับทิมสยาม “สวนสุภาสวัสดิ์” จากพนักงานประจำลุยสวนส้มเกษตรอินทรีย์ รายได้หลายล้านบาทต่อปี - ผู้จัดการออนไลน์
"ที่ชื่นชอบ" - Google News
https://ift.tt/36dr0nt
No comments:
Post a Comment