Pages

Tuesday, July 28, 2020

“มิสทิน”ทรานส์ฟอร์มสู่“บิวตี้เทค” รับดิจิทัล ดิสรัปชั่น หลังโควิด - กรุงเทพธุรกิจ

dasimahduh.blogspot.com

28 กรกฎาคม 2563 | โดย สาวิตรี รินวงษ์

35

"ดิจิทัล ดิสรัปชั่น" ยังเป็นสึมนามิเทคโนโลยีที่น่ากลัวสำหรับโลกธุรกิจ เพราะเมื่อโควิดสามารถควบคุมได้ สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องเผชิญความท้าทายต่อคือการ "ทรานส์ฟอร์ม" องค์กรให้พร้อมเคลื่อนธุรกิจในยุคดิจิทัล ซึ่ง "มิสทิน" จะก้าวสู่ "บิวตี้ เทค"

ป็นเวลา 32 ปี ที่สินค้าความงามสัญชาติไทยแบรนด์ มิสทิน” ยืนหยัดทำตลาดและเติบโตจนมียอดขายใกล้เคียง หมื่นล้านบาท แม้ภาพจำของการเป็นธุรกิจ ขายตรง จะจางลง แต่การค้าขายออฟไลน์ยังเป็นช่องทางหลักในประเทศ

ขณะที่ มิสทิน ในไทยยังโตต่อเนื่อง โดย 5 ปีที่ผ่านมาเฉลี่ยโต 1 หลัก 3% 5% บ้าง แต่อีกขุมทรัพย์ที่เข้ามามีบทบาทหนีไม่พ้น แดนมังกรที่การบริโภคกำลังเติบโต และเทใจให้สินค้าไทย ยิ่งนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนย่อมต้องซื้อ มิสทิน กลับบ้าน มากกว่านั้นบรรดาพ่อค้าแม่ขายยังปิ๊งไอเดียขนไปขายข้ามแดนผ่านออนไลน์ แม้ตลาดเครื่องสำอางแบรนด์ไทยกำลังเบ่งบาน แต่ปี 2563 โรคโควิด-19 

กระเทือนธุรกิจหนัก จนต้องปรับกระบวนท่า พลิกกลยุทธ์กันใหม่ รวมถึง มิสทิน ซึ่งแม่ทัพอย่าง   ดนัย    ดีโรจนวงศ์   ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่บริหารธุรกิจมา 27 ปี เจอวิกฤติหลายคราและอยู่รอดได้ ตกผลึก ผู้นำ และ พนักงาน ทั้งองค์กรต้องปรับวิธีคิดให้ทันการเปลี่ยนแปลงของโลก รวมทั้งคิดบวกควบคู่กัน

เมื่อวิกฤติโควิดกระทบยอดขายสินค้าความงามในไทยให้หดตัว เฉพาะไตรมาส 2 ติดลบใกล้อัตรา 2 หลัก(Digit) จากไตรมาส 1 การเติบโตทรงตัว ที่ยอดขายตกแรงเพราะนักธุรกิจของมิสทินราว  7 แสนคน จากเดิมราว 1 ล้านคน ไม่สามารถ เคาะประตูบ้าน ขายสินค้าได้เลย ส่วนการขายออนไลน์มีสัดส่วนเพียง 5% แม้จะมีบทบาทมากขึ้น แต่ไม่สามารถทดแทนช่องทางหลักได้

การปรับตัวช่วงโควิด รวมถึงการมองไปข้างหน้า บริษัทมองหา โอกาส ใหม่ เวลานี้ไร้งานแต่งงาน งานบันเทิง  ที่ทำให้ต้องแต่งแต้มความงามบนใบหน้า จึงหันมาผลิตสินค้าเครื่องใช้ส่วนบุคคล(Personal care)มากขึ้น โดยครึ่งปีหลังสินค้าใหม่ที่ออกมาทำตลาดจะเป็นกลุ่มดังกล่าวทั้งหมด ผลักดันให้สิ้นปีสัดส่วนสินค้าเพอร์ซันนอลแคร์จะเพิ่มเป็น 40% จากเดิม 30% และขึ้นเป็นสินค้าหมวดหลัก แทนสินค้ากลุ่มสีสัน(เมกอัพ)ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนราว 60% จะลดลงเป็น 30% ที่เหลือเป็นกลุ่มน้ำหอม

นอกจากนี้ ได้ผนึกกับแกรมมี่ปั้นแบรนด์ อิโดโล่”(IDOLO) ทำตลาด และส่งแบรนด์จากอิตาลีจับกลุ่มเป้าหมาย วาย”(ผู้บริโภคชายที่ชื่นชอบชาย) ซึ่งถือเป็นการขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น ครึ่งปีหลังจะเห็นพรีเซ็นเตอร์ใหม่ 4 คน เสริมทัพจากเดิมมี 8 คน

ในไทยเราไม่มองแค่มิสทิน แต่มองศักยภาพในการสร้างแบรนด์ใหม่เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายหลายกลุ่ม เมื่อก่อนผู้บริโภคดูทีวีช่องนี้ ติดตามราคาคนนี้ แต่ปัจจุบันแตกกระจายไปตามกลุ่มที่เขาชอบเฉพาะ ดาราหนึ่งคนไม่แมสสำหรับทุกคน

ยืนยันว่าโควิดเป็นตัวเร่งให้ผู้ประกอบการต้องเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่ดิจิทัล แม้ 5 ปีที่ผ่านมาบริษัทจะพยายามปรับตัวหลายด้าน แต่การที่ช่องทางออฟไลน์ยังเติบโตจึงโฟกัสช่องทางดังกล่าว โดยการขายออนไลน์ยังคงใช้พ่อค้าแม่ขายที่เปรียบเสมือน กำลังมด นำสินค้าไปเสิร์ฟผู้บริโภคแพลตฟอร์มต่างๆ บริษัทจะดูแลไม่ให้แข่งขันกันจนกระทบโครงสร้างราคาจนกระทบ กำไร ส่วนการทำตลาดออนไลน์ต้องจัดเต็ม อย่างช่วงโควิดได้ลดการโฆษณาผ่านโทรทัศน์ลง

เราไม่สามารถทำธุรกิจบนช่องเดียว อิงลูกค้ากลุ่มเดียวได้ เพราะเสี่ยง และเรามาจากธุรกิจดั้งเดิมกว่า 30 ปี การจะทรานส์ฟอร์ม เราจึงใช้โอกาสตอนนี้พลิกองค์กรสู่ดิจิทัล ขยับตัวเองให้เป็นองค์กรเทคโนโลยี หรือบิวตี้ เทค เพราะสิ่งที่น่ากลัวในอนาคตหลังจบโควิด คือดิจิทัล ดิสรัปชั่น ”

 สำหรับภาพรวมตลาดสินค้าความงามมีมูลค่าราว แสนล้านบาท ปีนี้คาดการณ์ ติดลบ ส่วนการฟื้นตัวอาจเห็นปีหน้า ดนัย ยังมองวิถีความงามหลังโควิดจะเห็นภาพ Healty, Beauty หรือสวย

คู่สุขภาพมากขึ้น ซึ่งในประเทศจีนมีการนำสินค้าความงามที่ช่วยป้องกันโรคโควิด เช่น ใช้แล้วทิ้งและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

ส่วนการมิสทินในจีน ยังคงโยกกำลังการผลิตสินค้าจากไทยไปแดนมังกรเพิ่มเป็น 60-70% รองรับการเติบโตและลดผลกระทบจากมาตรการขึ้นภาษีปีก่อน ทั้งนี้ การทำตลาดดังกล่าว มุ่งนำเสนอความเป็นไทย ใช้นักแสดงไทยดังในจีนช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์ ให้นักแสดงจีน Live แนะนำสินค้า รวมถึงการฉลอง 32 ปี มิสทิน ยึดพื้นที่อาคาร 70 ในเมืองหังโจว เพื่อแสดงแสงสีและสร้างปรากฏการณ์ให้แบรนด์อย่างต่อเนื่อง เพราะตลาดดังกล่าวแม้จะมีขนาดใหญ่ แต่การแข่งขันสูงมาก หากหยุดทำตลาดเพียง 1 เดือน แบรนด์จะหายไปทันที

อย่างไรก็ตาม จากแผนดังกล่าว บริษัทคาดว่าจะมียอดขายหลักหมื่นล้านบาท และจีนมีสัดส่วนยอดขายมากกว่าไทย สำหรับต้นปีที่ผ่านมา ยอดขายมิสทินในจีนเติบโต 5% แต่กำไรลดลง 3% เพราะการจัดโปรโมชั่นรุนแรง

Let's block ads! (Why?)



"ที่ชื่นชอบ" - Google News
July 28, 2020 at 01:40PM
https://ift.tt/2D9aSsP

“มิสทิน”ทรานส์ฟอร์มสู่“บิวตี้เทค” รับดิจิทัล ดิสรัปชั่น หลังโควิด - กรุงเทพธุรกิจ
"ที่ชื่นชอบ" - Google News
https://ift.tt/36dr0nt

No comments:

Post a Comment